Translate

วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558

http://maeyanuttikasirima.blogspot.com/




การเตรียมความพร้อมในการสมัครงาน

         การสมัครงานเหมือนกับการไปเสนอขายสินค้าซึ่งจำเป็นจะต้องเตรียมตัวให้ดี และการเตรียมตัวก่อนสมัครงานเป็นสิ่งจำเป็น จะต้องเริ่มตั้งแต่ก่อนจบ การศึกษา ซึ่งในแต่ละปี แต่ละสถาบันจะมีผู้จบการศึกษาทั่วประเทศ รวมกันแล้วประมาณแสน ๆ คน และความเชื่อที่ว่าเรียนเก่งหรือเรียนดีแล้วจะหางานง่ายนั้นอาจจะไม่เป็นจริงเสมอไป ซึ่งในยุคปัจจุบันการรับคนเข้าทำงานในทุกวันนี้จะพิจารณา สิ่งอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น บุคลิกภาพ ความคล่องตัว ความอดทน ความเป็นคนมีปฏิภาณ ไหวพริบ เป็นต้น การเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในการหางาน ทำหรือสมัครงาน จึงเป็นการเตรียมความพร้อมที่ดี และควรทำ เข้าทำนองที่ว่า "ฟอร์มดี มีชัยไปกว่าครึ่ง" ซึ่งการไปหางานหรือการไปสมัครงานเปรียบ เสมือนกับคุณเป็นเซลล์แมน ที่จำเป็นจะต้องเตรียมความพร้อมในการสมัครงาน โดย คุณจำเป็นจะต้องมีเทคนิค วิธีการต่างๆ ที่ทำให้ผู้ซื้อ สินค้า (นายจ้าง) พร้อมที่อยากจะได้สินค้า (ตัวคุณ) เอาไว้ ถ้าคุณทำได้ โอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จในการหางานทำมีมาก 
การเตรียมความพร้อมดังนี้
           1. ค้นพบตัวเองให้ชัดเจน
           2. ติดตามข่าวสาร
           3. การมองหาแหล่งงาน
           4. การเขียนเอกสารประวัติย่อ เช่น  Resume,  จดหมายสมัครงาน,  การเขียนใบสมัคร
           5. การสัมภาษณ์





อาชีพพยาบาล (Nurse)

นิยามอาชีพ : 
       ผู้ปฏิบัติพยาบาล(Nurse) ทำหน้าที่ให้การรักษาพยาบาล และดูแลผู้ป่วยทั้งทางกายและจิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือทุพพลภาพ รักษาและป้องกันโรค และการส่งเสริมสุขภาพ วางแผนและให้บริการด้านพยาบาล และทำหน้าที่ช่วยแพทย์ ในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาล
ลักษณะของงานที่ทำ : 
      รักษา ดูแล และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการพยาบาล เป็นผู้ช่วยแพทย์ โดยการสังเกต และบันทึกความเปลี่ยนแปลงในคนไข้ รายงานให้แพทย์ทราบถึงอาการของคนไข้ตามลักษณะโรคที่เป็นทั้งร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ ช่วยฟื้นฟูสุขภาพของคนไข้ ช่วยคนไข้ให้ปรับตัวเข้ากับภาวะขัดข้องใดๆ ที่อาจเกิด จากการเจ็บป่วย จัดให้คนไข้ มีสิ่งแวดล้อมที่ถูกสุขอนามัย ป้องกันและควบคุมการเผยแพร่ของโรคติดเชื้อ สอนคนไข้ และประชาชนทั่วไปให้รู้จักการดูแลและส่งเสริมสุขภาพวางแผน มอบหมาย สั่งการ ดูแล และประเมินผลงานของผู้ช่วยพยาบาล และผู้ทำหน้าที่ประสานงาน ร่วมงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ และอนามัยแขนงอื่นๆ ในการบริการคนไข้
สภาพการจ้างงาน : 
        สำหรับหน่วยงานราชการพยาบาลที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ได้รับเงินเดือนอัตรา 6,360 บาท ส่วนพยาบาลที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทได้รับเงินเดือนอัตรา 7,780 บาท และปริญญาเอกได้รับเงินเดือนอัตรา 10,600 บาท 
ในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจผู้ที่มีการศึกษาระดับปริญญาตรีจะได้รับเงินเดือนประมาณ 7,000 -7,600 บาท
สำหรับหน่วยงานเอกชน พยาบาลที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจะได้รับเงินเดือนขั้นต้นประมาณ 13,900 บาท ค่าอยู่เวร เวรละ 250 บาท ซึ่งจะมีรายได้เฉลี่ยจากค่าอยู่เวรประมาณเดือนละ 2,500 - 3,000 บาท ซึ่งพยาบาลเอกชนจะมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 16,000 บาทมีสวัสดิการที่พักและสิทธิพิเศษ อื่นๆ ตามเงื่อนไขการตกลงกับผู้ว่าจ้าง
ผู้ปฏิบัติงานอาชีพพยาบาลโดยปกติทำงานวันละ 8 - 9 ชั่วโมง และมีการเข้าเวรทำงานตามที่กำหนดเป็นระเบียบปฏิบัติ นอกจากนี้ พยาบาลที่ออกเวรแล้วสามารถหารายได้พิเศษในการรับจ้างเฝ้าไข้ ให้กับคนไข้อีกด้วย
สภาพการทำงาน : 
          ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน สถานพยาบาล(คลีนิค) สถานพักฟื้น สถานฟื้นฟู ดูแลรักษาสุขภาพ สถานสงเคราะห์ เด็ก หรือคนชรา สถานอนุบาลเด็กทารกหรือเด็กก่อนวัยเรียน สถานการศึกษา เช่น โรงเรียน วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย สถานที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม สถานีอนามัย/คลีนิคในชุมชนพยาบาลประจำบ้าน หรือส่วนบุคคล เป็นต้น
คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ : 
      1. สำเร็จการศึกษา พยาบาลศาสตร์ต่อเนื่อง หรือพยาบาลศาสตร์
      2. มีสุขภาพสมบูรณ์ ทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่พิการหรือทุพพลภาพ ปราศจากโรค (อันเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงาน)
     3. มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่รังเกียจผู้เจ็บป่วย มีความเมตตา และมีความรักในเพื่อนมนุษย์มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
     4. มีความอดทน อดกลั้น และมีความกล้าในการตัดสินใจ
     5. มีความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน
     6. มีความเสียสละที่จะเดินทางไปรักษาพยาบาลผู้คนในชุมชนทั่วประเทศ 
โอกาสในการมีงานทำ :
           ปัจจุบัน ประเทศไทยมีประชากรมากกว่า 62 ล้านคน ความต้องการพยาบาลเพื่อทำการรักษาพยาบาลต้องเพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของประชากรประกอบกับรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความสนใจในสุขภาพของประชาชนทุกเพศทุกวัยได้พยายามขยายบริการออกไปให้ทั่วถึง จึงจำเป็นต้องใช้พยาบาลในการปฏิบัติงานเป็นจำนวนมาก อีกทั้งโรงพยาบาลและสถานพยาบาลของภาคเอกชนได้ขยายตัว มากขึ้น เพื่อบริการประชาชน และหน่วยงานอื่นๆ เช่น สถานประกอบการอุตสาหกรรม สำนักงานประกันภัย บริษัทขายยาและเคมีภัณฑ์ บริษัทขายเครื่องมือแพทย์ ต้องการพยาบาลไปดูแลรักษาพยาบาล หรือให้ คำปรึกษาแนะนำด้านสุขภาพอนามัยแก่พนักงานในสถานประกอบการ หรือให้คำปรึกษาแนะนำ ในการประกอบธุรกิจ นอกจากนี้ ผู้สำเร็จการศึกษาวิชาชีพพยาบาลสามารถไปประกอบวิชาชีพส่วนตัวได้ เช่น เปิดสถานดูแลเด็กอ่อน เด็กเล็กก่อนวัยเรียนผู้สูงอายุ หรือรับจ้างปฏิบัติงานเลี้ยงเด็กหรือดูแล ผู้สูงอายุ เป็นต้น ดังนั้น แนวโน้มของโอกาสในการมีงานทำของพยาบาล( Nurse)  ยังคงมีอยู่ค่อนข้างสูง จึงสามารถหางานทำได้ ไม่ยากนัก
โอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ : 
           ผู้ปฏิบัติหน้าที่ เป็นข้าราชการ ในโรงพยาบาล สังกัดกระทรวงสาธารณสุข และในสังกัดกระทรวงกลาโหม ได้รับตำแหน่ง และเลื่อนขั้นยศตามขั้นตอนของระบบราชการ การศึกษาต่อเพิ่มเติมจะช่วยให้ เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งได้รวดเร็วขึ้นและสามารถเป็นถึงผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานได้ ในรัฐวิสาหกิจก็เช่นเดียวกัน ส่วนในโรงพยาบาลภาคเอกชนนั้นขึ้นอยู่กับโครงสร้างการบริหารงานขององค์กรหรือสามารถทำธุรกิจส่วนตัวได้ คือเป็นเจ้าของสถานพยาบาล สถานดูแลเด็กอ่อน เด็กก่อนวัยเรียน และผู้สูงอายุ หรือศึกษาต่อเพิ่มเติมจนถึงระดับปริญญาเอก
อาชีพที่เกี่ยวเนื่อง : 
            ธุรกิจประกันชีวิต นักวิจัยให้กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ เช่น International HIV/AIDS Research Project เจ้าหน้าที่พยาบาลหรือที่ปรึกษาในองค์การระหว่างประเทศ องค์กรพัฒนาเอกชน หรือเป็นเจ้าหน้าที่แนะนำ Product Specialist ให้บริษัทขายยา และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น


การทำงานอย่างตั้งใจ  
http://www.xn--72c0baa2eyce3a4p.com/

กลุ่มงานพยาบาล

แผนกผู้ป่วยนอก
แผนกฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
แผนกรังสีกรรม 
แผนกผู้ป่วยใน 
แผนกห้องผ่าตัด 
แผนกวิสัญญี
แผนกคลอด 
แผนกเด็กแรกเกิด
แผนกผู้ป่วยหนัก 
แผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟู
แผนกไตเทียม
แผนกเภสัชกรรม
แผนกโภชนาการ
แผนกห้องปฏิบัติการทางการแพทย์

http://www.pmsnurse.com


การทำงานต่างประเทศ

วิธีสมัครสอบ NCLEX
       เมื่อผู้สมัครผ่านการตรวจ สอบคุณสมบัติจาก Board of Registered Nursing แล้ว ก็จะได้รับจดหมายแจ้ง(Eligible)และแพ็คเกจคู่มือ,ใบสมัครสอบNCLEX ขั้นตอนต่อไปก็คือ ลงทะเบียนสอบกับ Pearson VUE ซึ่งเป็นบริษัทจัดสอบNCLEX และทำหน้าที่รายงานผลสอบไปที่Boardโดยตรง สำหรับคนที่มีหมายเลข SSN จะสามารถดูผลสอบได้ภายในไม่กี่วันหลังสอบ แต่สำหรับคนที่อยู่เมืองไทยต้องรอประมาณ 4 สัปดาห์ ถ้าได้รับซองจดหมายบาง ๆ ก็รู้ได้เลยว่า สอบผ่าน ในซองจะมีแบบฟอร์มสำหรับแจ้งหมายเลข SSN แต่ถ้าสอบไม่ผ่าน ก็จะได้รับซองใหญ่หนาปึ้ก ในนั้นก็จะมีการวิเคราะห์ผลสอบให้เรารู้ด้วยว่า เรายังอ่อนที่จุดไหน จะได้แก้ไขก่อนลงทะเบียนสอบครั้งต่อไป ดาวน์โหลดคู่มือสมัครสอบ NCLEX จากลิงค์นี้ค่ะ ค่าสมัครสอบ $200 สำหรับคนที่ต้องการสอบนอกประเทศอเมริกา(United States includes American Samoa, Guam, Northern Mariana Islands, and the Virgin Islands) ต้องจ่ายเพิ่มอีก $150
ขั้นตอนการสมัครสอบ มีดังนี้ ปรินท์ใบสมัคร ออกมาลองกรอกดูก่อน ในแพ็คเกจมีตัวอย่างการกรอกใบสมัครให้ดู เมื่อตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้ว อาจเลือกใช้วิธีลงทะเบียนทางอินเตอร์เนตหรือทางโทรศัพท์ (สำหรับคนที่มีบัตรเครดิต) ส่วนคนที่ไม่มีบัตรเครดิต สามารถส่งใบสมัครพร้อมกับMoney Order หรือ Cashier Check
การกรอกใบสมัคร
1. เลือกประเภทการสอบที่ต้องการ: ทำเครื่องหมายที่ช่อง NCLEX-RN
2. Name กรอกชื่อผู้สมัคร ต้องตรวจสอบตัวสะกดให้ตรงกับพาสปอร์ต เรียงลำดับ นามสกุล, ชื่อ, ชื่อกลาง (ถ้ามี) หากมีการเปลี่ยนชื่อสกุลหลังจากที่ลงทะเบียนสอบและได้จดหมาย Eligible แล้ว ผู้สมัครจะต้องแจ้งขอเปลี่ยนชื่อสกุลไปที่Board และโทรไปที่ Pearson Call Center เพื่อขอใบ ATT(Authorization To Test) ใหม่
3. Mother’s maiden name : กรอกนามสกุลเดิมที่แม่ใช้ก่อนแต่งงาน
4. Your date of birth : ทำเครื่องหมายวงกลมรอบเดือนเกิด และกรอกวัน,ปีลงในช่อง
5. U.S. Social Security Number : กรอกหมายเลขประกันสังคม (คนที่อยู่เมืองไทยจะยังไม่มีหมายเลขนี้ ไม่ต้องกรอกอะไรค่ะ)
6. Ethnic Information : เชื้อชาติ
7. Sex : ระบุเพศ
8. Telephone Number (Home/Mobile) กรอกหมายเลขโทรศัพท์
9. Telephone Number (Work)
10. E-Mail Address กรอกอีเมล์แอดเดรส (ถ้ามี) ซึ่ง Pearson จะส่งเอกสารทุกอย่างไปให้ผู้สมัครทางอีเมล์ ถ้าผู้สมัครไม่กรอกอีเมล์ Pearson จะส่งเอกสารไปให้ทางไปรษณีย์
11. Your Maiden Name ผู้สมัครที่แต่งงานแล้ว ให้กรอกนามสกุลเดิมก่อนแต่งงาน
12. Another Last Name You Have Used กรอกนามสกุลอื่นที่เคยใช้ (กรณีที่เคยเปลี่ยนนามสกุลมาก่อน)
13. Last Date Other Name Was Used ถ้าหากมีชื่ออื่นที่เคยใช้ในข้อ 12. ให้ระบุวันที่ที่เลิกใช้
14. Primary Language ภาษาแรกที่ใช้
15. Education Program Code คนที่จบในเมืองไทย กรอกรหัส 99-499
16. Graduation Date วันเดือนปีที่จบการศึกษา
17. Do You Have CGFNS Certification? คุณมี CGFNS Certification หรือไม่
18. CGFNS Certification Number ถ้ามี ให้กรอก CGFNS Certification Number
19. Board of Registered Nursing in which you are seeking for licensure กรอกชื่อรัฐที่ต้องการสมัครไปทำงาน
20. Your Current Mailing Address กรอกที่อยู่ปัจจุบัน สำหรับคนที่อยู่เมืองไทย ไม่ต้องกรอกช่อง “State, Territory, Province”
21. a. U.S. zip code กรอกรหัสไปรษณีย์ สำหรับคนที่อยู่ในอเมริกา
22. b. Country code สำหรับคนที่อยู่เมืองไทย รหัสประเทศ คือ 565
23. c. Foreign Postal Code กรอกรหัสไปรษณีย์ของไทย Signature : เซ็นชื่อผู้สมัครเป็นภาษาอังกฤษ (อย่าเขียนเป็นตัวพิมพ์ใหญ่)
การลง ทะเบียนสอบ
เมื่อผ่านกระบวนตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครเรียบร้อยแล้ว ผู้สมัครจะได้รับใบ ATT จากทางBoard ซึ่งในเอกสารนี้จะมีหมายเลขประจำตัวผู้เข้าสอบ และวันหมดอายุ (ATT มีอายุ 60-365วันโดยเฉลี่ย 90 วัน ตามแต่ Nursing Board กำหนด) ซึ่งผู้สมัครจะต้องทำการลงทะเบียน เลือกวันและสถานที่สอบก่อนที่ ATT จะหมดอายุ วันหมดอายุไม่สามารถขอเลื่อนได้ไม่ว่ากรณีใด ๆ หากไม่สอบก่อนวันหมดอายุ ต้องลงทะเบียนและชำระเงินใหม่
กรณีที่ต้องการสอบในอเมริกา ผู้สมัครสามารถลงทะเบียนได้ทางเวบไซต์หรือทางโทรศัพท์ หากต้องการสอบนอก ประเทศอเมริกา(และเกาะต่าง ๆ ในเขตอาณานิคม) ต้องลงทะเบียนสอบทางโทรศัพท์เท่านั้น (Asia Pacific Region – Call NCLEX Candidate Services in Kuala Lumpur, Malaysia, at (pay number) +603.8314.9605, Monday - Friday, 8:30 am to 6 pm, Universal Time) สำหรับผู้ที่ต้องการไปสอบที่ฮ่องกง ต้องเตรียม ATT และบัตรเครดิตให้พร้อมสำหรับจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก $150 เมื่อลงทะเบียนสอบเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้รับอีเมล์ยืนยันจาก Pearson วัน สอบ
ควรไปถึงสถานที่สอบก่อนเวลาอย่างน้อย 30 นาที เตรียมATT และพาสปอร์ตไปให้พร้อม
เจ้าหน้าที่จะถ่ายรูปผู้เข้าสอบ สแกนลายนิ้วมือและให้เซ็นชื่อ(ให้เหมือนในพาสปอร์ต)ก่อนเข้าห้องสอบ
ไม่อนุญาตให้สวมหมวก ผ้าพันคอ (รวมทั้งเสื้อกันหนาวแบบผ่าหน้า) เข้าห้องสอบ
ห้ามนำหนังสือ คู่มือสอบ กระดาษโน้ตเข้าห้องสอบ หากรู้สึกรบกวนจากเสียงคีย์บอร์ดสามารถขอ Earplug จากผู้คุมสอบ
เฉพาะพาสปอร์ตเท่านั้นที่เอาเข้าห้องสอบได้ (กระเป๋าและเอกสารอื่น ๆ ต้องเก็บในล็อคเกอร์ รวมทั้งแบบฟอร์ม immigration ที่ถูกเย็บติดอยู่กับพาสปอร์ตก็ต้องแกะออกด้วย)
ยกมือแจ้งผู้คุมสอบในกรณีต้องการความช่วยเหลือ หรือต้องการทำธุระส่วนตัว ซึ่งเวลาพักนี้จะคิดรวมไปกับเวลาที่ใช้ทำข้อสอบ (ควรพักเท่าที่จำเป็น) เมื่อจะกลับเข้าห้องสอบ ก็ต้องสแกนลายนิ้วมืออีกครั้ง

สอบ NCLEX อย่างเดียวสามารถทำงานได้เลย
         Nclex คือใบประกอบวิชาชีพพยาบาลพยาบาลทุกคนต้องสอบผ่านจึงจะได้เป็น Registered nurse มีหลายรัฐที่ไม่ต้องสอบ CGFNS ได้แก่ California, New York, Georgia, Florida, Oregon, Hawaii, NewMexico, S.Carolina ส่วนรัฐที่ต้องการ CGFNS คุณต้องได้ CGFNS CERTIFICATE ก่อนจึงจะสมัครสอบ NCLEX ได้ค่ะ





บุคลากรที่มีประสิทธิภาพ








หากมีความสนใจกรอกใบสมัคร ที่นี่น่ะค่ะ

1 ความคิดเห็น:

  1. รบกวนลบรูปพยาบาลรูปแรกออกนะคะ เป็นลิขสิทธิ์ของ รพ.กรุงเทพหาดใหญ่

    ตอบลบ